แผนการของพระเจ้าไม่อาจหยั่งได้

คุณดวงเดือน พิกุลเงิน




�������������
����� �� ดิฉันเกิดในครอบครัวที่ญาติข้างแม่เป็นคริสเตียน�แต่สมัยเด็ก ๆ�ไม่ค่อยได้ไปโบสถ์�เนื่องจากคุณแม่มีลูกเล็ก ๆ�หลายคน ทำให้ไม่สะดวกในการเดินทาง จนอายุ 10 ขวบ�จึงมีโอกาสไปโบสถ์ที่สะพานเหลือง กับน้าชายบ้างเป็นครั้งคราว�และพระเจ้าทรงสถิตกับดิฉันโดยที่ดิฉันไม่รู้ตัวเลย�จนมีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้น�คือขณะที่ดิฉันกำลังจะข้ามถนน�มีเสียงกระซิบที่หูว่า�“อย่าเพิ่งข้าม”�ทันใดนั้น มีรถสิบล้อวิ่งปาดหน้าไป�ดิฉันตกใจมาก�แต่เวลานั้นยังไม่คิดว่า�คือพระเจ้าที่ทรงคุ้มครองดิฉัน�เนื่องจากยังไม่เข้าใจเรื่องพระเจ้า


��������������� ต่อมาได้เข้าชั้นเรียนรวีฯ�ซึ่งสอนเรื่องพระเยซูคริสต์�พระเจ้าพระบิดา�จึงรู้ว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่ในชีวิต�และทรงช่วยเหลือปกป้องดิฉันด้วย�ทำให้ดิฉันรู้สึกขอบพระคุณพระเจ้ามาก


��������������� แล้วดิฉันก็ห่างเหินโบสถ์ไปอีก�มัวแต่วุ่นวายกับการเรียนหนังสือ �ทำงานช่วงปิดเทอม�ไปโบสถ์ตอนงานคริสตมาสบ้างเป็นครั้งคราว�แต่ก็ยังอธิษฐานบ้าง


��������������� 10 ปี ต่อมา ครอบครัวย้ายไปอยู่เคหะร่มเกล้าฯ�ได้รู้จักกับ อ.สุชาติ ซึ่งบ้านอยู่ฝั่งตรงข้าม�ท่านได้ชวนครอบครัวดิฉันไปโบสถ์ (คจ.สามัคคีธรรมกรุงเทพ)�ดิฉันจึงได้กลับมาหาพระเจ้าอีก�ช่วงนั้นมีความสุขมาก�สนุกกับการเข้ากลุ่มเซลล์ร้องเพลง�อธิษฐานในคืนวันศุกร์�คืนหนึ่งพระวิญญาณทรงเจิมให้ดิฉันพูดภาษาแปลก ๆ


��������������� พระเจ้าทรงนำให้ดิฉันได้ทำงานกับคุณมนิดา�เปล่งศรีสุข�พระองค์ยังเมตตาตอบคำอธิษฐานเสมอมา�ดิฉันจึงเชื่อ 100 % ว่ามีพระเจ้าแน่นอน�แต่ดิแนยังมิได้รักพระเจ้าอย่างสุดใจ�บางเรื่องมักทำตามใจตัวเอง


��������������� เวลานั้นดิฉันทำงานด้านการเงิน-บัญชี�แต่อยากรับราชการจึงไปสอบ ก.พ.�และ สอบได้ ถึงวันทำงานจริง กลับเปลี่ยนใจ�ไม่อยากรับราชการ�เป็นอย่างนี้ ถึง 3 ครั้ง�ดิฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม?


��������������� ต่อมาขณะที่กำลังท้องลูกคนแรก ดิฉันได้รับผิดชอบงานสำคัญมากขึ้น�เกิดปัญหากับหัวหน้างานหลายคน�ถูกกดดัน�ถูกทำร้ายจิตใจอย่างหนัก�จึงอธิษฐานเรียกร้องขอความยุติธรรมจากพระเจ้า�และเปิดพระคัมภีร์เพื่อขอคำตอบ�พระองค์ทรงเตือนว่า จงวางใจพระเจ้าและการพิพากษาไม่ใช่งานของดิฉัน �แต่ดิฉันไม่อดทนรอคอย�หลังจากคลอดลูกแล้ว จึงตัดสินใจลาออกจากงาน


ด้วยพระคุณพระเจ้า�ปรากฎว่าคุณมนิดา�ไม่ให้ออกแต่ขอให้ย้ายไปทำงานด้านการตลาด และงานขายกับท่าน�ทั้ง ๆ ที่ดิฉัน ไม่มีความรู้ด้านนี้เลย�แต่พระเจ้าประทานสติปัญญาให้�สามารถทำงานด้านการตลาด�และงานขายเต็มตัวในเวลาต่อมา�จนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง�����������


หลังจากนั้นเกิดปัญหาในครอบครัว จึงลาออกจากงานไปอยู่ต่างจังหวัด ระยะหนึ่ง�ที่สุดได้ย้ายกลับมากรุงเทพ�คุณมนิดาเมตตารับเข้าทำงานอีกครั้ง�และมอบหมายให้ช่วยดูแลทุกส่วนงานของบริษัทคามาร์-เทคโนแก๊สจำกัด�ซึ่งขณะนั้นกำลังมีปัญหาหลายอย่าง


��������������� ดิฉันอธิษฐานขอสติปัญญาจากพระเจ้าในการบริหารงาน�และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของบริษัทที่เกิดสะสมมานานแล้ว�ซึ่งได้รับคำตอบจากพระเจ้าทุกครั้ง�ทำให้ผลการดำเนินงานดีขึ้นเรื่อย ๆ


��������������� พระคุณของพระเจ้ามากล้นจริง ๆ�ตลอดเวลาในหน้าที่การงาน�ดิฉันไม่เคยทูลขอเงินหรือทรัพย์สินจากพระเจ้าเลย�นอกจากทูลขอสติปัญญาในการทำงานเท่านั้น�และพระองค์ประทานให้ทุกครั้งจนสามารถขจัดอุปสรรคปัญหาไป ได้ทุกเรื่อง�

��������������� ทำให้ดิฉันไม่ท้อถอย�ไม่กลัวอุปสรรคใด ๆ เพราะดิฉันเชื่อว่าพระเจ้าทรงนำทุกเวลา

��������������� ถึงแม้ในอนาคต�จะเป็นอย่างไร ดิฉันจะไม่หวั่นไหว�และรับได้ทุกกรณี�เพราะมั่นใจและวางใจว่า�พระเจ้าทรงมีแผนการณ์บางอย่างสำหรับดิฉันอย่างที่คาดไม่ถึงเสมอ�ลองคิดดูซิว่า ถ้า 10 ปีก่อน�ดิฉันคอยแต่จะหาคำตอบเรื่องความยุติธรรม�ดิฉันคงไม่เป็นแหมือนวันนี้...ขอบคุณพระเจ้าค่ะ
สุภาษิต 11:8,16:3
11:8�คนชอบธรรมได้รับการช่วยเหลือ�ให้พ้นจากความทุกข์ร้อน�แต่ความทุกข์นั้นจะตกอยู่กับคนชั่วแทน


16:3������� จงมอบการงานของเจ้าไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า�� แล้วพระองค์จะทรงรับรองแผนงานของเจ้า









Visitor 241

 อ่านบทความย้อนหลัง