คุณแม่ของนักกีฬาโอลิมปิก

 

 ศจ. สมเกียรติ กิตติพงศ์

        คุณแม่ของ นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก

        Natalie_Hawkin 

          

       วันแม่ปีนี้   ผมขอนำเรื่องคุณแม่คนหนึ่ง คือ คุณนาตาลี ฮอค์กิน  ผู้เป็นคุณแม่  ของนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิค ยิมนาสติกแกบบี้ ดักลาส

มาเล่าให้ฟัง

        ผมสนใจเธอก็เพราะ  ไม่กี่วันมานี้  เมื่อตอนที่ แกบบี้  ดักลาส  หนูน้อยนักกีฬายิมนาสติก  ผิวดำชาวอเมริกัน วัย 16 ปี คว้าเหรียญทองโอลิมปิก ที่กรุงลอนดอน  ให้สัมภาษณ์นักข่าว  เธอพูดด้วยอาการยิ้มแย้มว่า 

       “หนูขอถวายเกียรติแด่พระเจ้า”

   ที่อาคารยิม นอร์ท กรีนวิซ อารีน่า ปีกซ้าย   เสียงเชียร์ดังขึ้นอย่างน่าตื่นเต้นจาก อัฒจรรย์   “ลุย  แกบบี้  ลุย” ม้ากระโดด 15,966  คะแนน  (2)บาร์เดี่ยวต่างระดับ 15,733 คะแนน  (3)บาร์คู่  15,500  คะแนน  และ(4) จากท่าลีลาบนฟลอร์ อีก 15,033 คะแนน

         ในการแข่งขันคราวนี้  เธอคว้า เหรียญทองจาก  ประเภททีม  และอีก 1 เหรียญทองจากประเภทแข่งขันเดี่ยว

หนูน้อยแกบบี้ เป็นหญิง อัฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่คว้าเหรียญทองกีฬายิมนาสติก  และเป็นหญิงอเมริกันคนแรกที่แข่งขันยิมนาสติกได้ ทั้งประเภททีมและประเภทแข่งขันเดี่ยวในกีฬาโอลิมปิกครั้งเดียวกัน 

      

       คุณแม่ของเธอมีส่วนสำคัญมากสำหรับชัยชนะ      

        แกบบี้ ดักลาส  เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1995 ที่เวอจิเนียร์ บีช  เธอเป็นลูกคนสุดท้องของ ทิโมธี ดักลาส และ นาตาลี ฮอค์กิน   คุณแม่ส่งเธอและพี่สาวอีก  3  คนไปเข้าชั้นเรียน ยิมนาสติก  ตั้งแต่ แกบบี้อายุแค่  ขวบ  ที่เวอร์จิเนีย บีช

      

     1.สนับสนุน ลูกตามตะลันที่พระเจ้าประทานให้       

        ลูกสาวคนเล็กฉายแวว ความสามารถด้านยิมนาสติก ตอนแกบบี้ อายุ 8  ขวบ แกบบี้ ก็ได้รางวัล เวอร์จิเนียร์สเดทแชมเปี้ยนชิฟ  ระดับ 4   จากนั้น ลูกสาว แกบบี้ คนนี้ก็คว้ารางวัลอีกหลายรางวัลมาแทบทุกปี   เช่น ปี 2010  การแข่งขันยู เนียร์ เนชั่นนัล แชมเปี้ยนชิฟ  เธอได้เหรียญเงิน  แพนอเมริกัน แชมเปียนชิฟ ที่เม็กซิโก  ได้เหรียญทอง ประเภททีม   ปี 2011  ที่เซนต์หลุยส์  เธอได้เหรียญทองแดง ประเภทบาร์ต่างระดับ   และได้เหรียญทองในการแข่งขันประเภททีม  ที่กรุงโตเกียว  และในปี 2012 ก่อนกีฬาโอลิมปิก  ลูกสาวก็คว้ารางวัลอีกหลายรางวัล  เช่นการแข่งขันที่ ซีอาเติล  เธอได้เหรียญทอง  บาร์ต่างระดับ ประเภททีม 

     “ดิฉันเชื่อว่า  ดิฉันเลี้ยงลูกอายุ 14 ปี คนนี้อย่างดี” เธอกล่าวเมื่อ 2 ปีที่แล้ว  “ลูกเป็นคนเก่ง มีความสามารถ ลูกเลือกจุดหมายปลายทางของเขา  ส่วนดิฉันจะสนับสนุนลูกตลอดเส้นทางที่ลูกเดินไป” 

         เสียงชื่นชมจากเวปบอร์ท  “ขอขอบคุณ  นาง ฮอค์กิน ในการเป็นคุณแม่ที่ดี  ที่เธอเลี้ยงลูกจนเป็นดาวรุ่ง นำเหรียญทองกลับมาบ้าน  ลูกสาวคงจะประสบความสำเร็จอย่างนี้ไม่ได้  ถ้าคุณแม่มิได้ทำงานหนัก และเสียสละนับเป็นแบบอย่างของแม่ที่ดี และของลูกที่อยู่ในโอวาทด้วย”  อีกเสียงหนึ่งเขียนมาชื่นชมว่า 

       “พระเจ้าทรงประทานพรสวรรค์ให้แกบบี้ และทรงเลือกแม่ที่เหมาะสมให้ จนเธอได้เป็นดาว”

 

2.ความฝันที่ต้องลงทุน

         ไม่เคยมีความสำเร็จใดได้มาฟรี ๆ  โดยไม่ต้องลงทุนลงแรง  นับถอยหลังไป  2  ปีที่แล้ว  เมื่อแกบบี้อายุ 14 ปี  ขณะดูภาพยนต์การแข่งขัน กีฬาโอลิมปิกคราวก่อน ปี 2007   ลูกสาว แกบบี้  เห็นภาพ โค้ช ขาวจีน เหลียง เฉ่า  ปฏิบัติกับนักกีฬายิมนาสติก  โดยให้กำลังใจนักกีฬาด้วยความรักเมตตา    เธอบอกคุณแม่ว่า  “หนูอยากไปฝึกกับโค้ชคนนี้”  ทั้งสองมีความเชื่อในพระเจ้า  ว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นไปได้  แม่ลูกคู่นี้จึงออกเดินทางจาก เวอร์จิเนียร์  บีช  ไปยัง เมืองเดช มอยเนส ตะวันตก ในรัฐไอโอวา ซึ่งห่างออกไปถึง  3,000 ไมล์    ที่ที่โค้ช เหลียง เฉ่า มีโรงยิมฝึกนักกีฬาอยู่  เธอดีใจที่เธอเลือกโค้ชที่ดีที่สุดให้ลูก  หัวใจเต็มร้อยของเธอ  พบกับครูฝึกที่เต็มร้อยกับเธอ  มันต้องดีแน่ๆ  แต่ที่ไอโอวา แม่ลูกคู่นี้ไม่รู้จักใครสักคน  เธอต้องนำลูกไปฝากไว้กับครอบครัวที่มีความเป็นอยู่แตกต่างจากที่บ้านโดยสิ้นเชิง 

 

     3.หัวใจแม่อยู่ที่ลูก

       หลังจากละลูกสาวไว้กับโค้ช  แล้วเธอก็เดินทางกลับเวอร์จิเนีย บีช  “ท้องดิฉันปั่นป่วนไปหมด  ตอนเดินทางกลับบ้าน  ดิฉันไม่มั่นใจเลยว่าลูกจะอยู่ที่นั่นได้หรือไม่”  ฮอกินกล่าวด้วยน้ำตา  “ดิฉันโทษตัวเองว่า  ดิฉันเป็นแม่แบบไหนกัน  ที่ทำกับลูกอย่างนี้ “  เธอระบายออกมา “ดิฉันเคยนั่งเครื่องบินไม่รู้สักกี่เที่ยว  เชื่อดิฉันเหอะ  นี่คือการเดินทางกลับบ้าน เที่ยวที่ยาวไกลที่สุดในชีวิต” สามเดือนหลังจาก แกบบี้จากบ้านเธอคิดถึงบ้าน  ส่วนแม่ก็ปวดร้าวในจิตใจ  ครอบครัวที่ไอโอวา ช่วยลูกของเธอไม่ได้   คุณแม่ตัดสินใจอยากให้ลูกกลับบ้าน  และยุติการฝึกฝนที่นั่น ทั้งหมด   แต่มีหลายครอบครัวที่นั่นขันอาสารับ แกบบี้ ไปดูแล  ท่ามกลางครอบครัวเหล่านั้น มีครอบครัว ของ ทราวิสและมิสซี่ พาร์ตัน  ซึ่งเธอตัดสินใจให้ลูกไปอยู่ด้วย ครอบครัวนี้มีหนูเลอาห์  ฝึกอยู่กับโค้ชเหลียงด้วย     ทั้งสองให้ความรักแก่แกบบี้ เหมือนเป็นลูกสาวของตนเอง”  เธอโทรศัพท์   สไกพ์  พูดคุยกับลูกแทบทุกวัน   

 

 

 4.ให้กำลังใจลูก

        “ดิฉันไม่มั่นใจว่า  การจากลูกเช่นนี้ดีหรือไม่  เราปกป้องลูกของเราจนกว่าเขาเป็นนกที่พร้อมบินออกจากรังได้  บางคนอาจพร้อมเร็วกว่าบางคน  หลายคนคิดว่าดิฉันบ้าไปแล้วที่ปล่อยให้ลูกมิอิสระตัดสินใจเอง  แต่ดิฉันก็อยากให้ให้เธอเป็นหญิงแกร่ง ที่เลือกด้วยตนเองเป็น  และขอความช่วยเหลือได้เสมอเมื่อต้องการ   บางทีสิ่งที่ดีที่สุด  คือการให้เขารู้ว่า เขาเก่ง เหนียว  สามารถยืนอยู่บนขาของตนเอง  ในขณะที่เราจับมือเขาไว้เสมอ”  แกบบี้เล่าว่า  คุณแม่พูดกับเธอเสมอ   “ชีวิตนะมันไม่ง่าย  แต่ลูกต้องต่อสู้”   “  แน่นอน  ลูกจะสู้  ลูกจะสู้ให้ได้สมตามความฝัน”   

            ในการแข่งขัน ลีลาบนลาน  ฮอกิน บอกลูกสาวว่า  “ลูกทำได้   ลูกได้ฝึกฝนตลอดมา  เพื่อนาทีนี้  ลูกต้องทำได้”

 

      



Visitor 85

 อ่านบทความย้อนหลัง