รุสเซียล่มสลาย

The Broken Empire.

ศจ.สมเกียรติ กิตติพงศ์

 

               การล่มสลายของสหภาพโซเวียตรุสเซีย  เป็นคำตอบเสียงอธิษฐานของผู้เชื่อ  เพื่อการเสด็จกลับมาครั้งที่สอง

                สมัยเป็นเด็กนักเรียนอยู่ต่างจังหวัด  ผมได้ยินว่าในโลกเรามีประเทศยักษ์ใหญ่อยู่สองค่าย  ค่ายหนึ่งคือสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพี่เบิ้มของประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย  ส่วนอีกค่ายหนึ่ง  คือประเทศที่ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์  ซึ่งมีสหภาพโซเวียตรุสเซีย เป็นพี่ใหญ่  ผมชอบเอาแผนที่โลกมากางดู และเปรียบเทียบเนื้อที่ของประเทศทั้งสอง  ว่ามันกว้างใหญ่มากน้อยกว่ากันเพียงใด  ยังจำได้ว่าพออเมริกาจะส่งยานอวกาศอปอลโล  รัสเซียก็ส่งยานอวกาศสะปุสนิก  ทั้งสองประเทศนี้แข่งขันกัน  แม้ไม่ได้รบกันโดยตรง  แต่คอยปราบกันไปกันมา ที่เขาเรียกว่า “สงครามเย็น” อเมริกามีหน่วยสืบราชการลับ ซีไอเอ ส่วนรัสเซียก็มีหน่วยสืบราชการลับ เคจีบี  ใครเก่งกว่าใครผมไม่ทราบ  ผมไม่สนใจ  แต่ที่ผมสนใจ คือ  ประเทศในสหภาพโซเวียต รุสเซียที่ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์  จะได้ยินพระกิตติคุณได้อย่างไร   เพราะระบอบนี้ต่อต้านการนับถือศาสนา  แล้วคนในประเทศจะได้ยินเรื่องราวของพระเยซูได้อย่างไร    

                 หลายปีมาแล้ว  ผมเคยเดินทางเข้าไปในรุสเซีย  มีมัคคุเทศน์นำทัวร์  สมัยนั้น ยังเป็นสหภาพโซเวียตรุสเซีย  ที่ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์   เมืองที่ผมไป คือ โอเดสซา  ซึ่งเป็นเมืองท่า  ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลดำ และอีกเมืองหนึ่งคือ เมืองเคียฟ  ทั้งสองเมืองนี้อยู่ใน รัฐยูเครน ( ทุกวันนี้เรียกว่าประเทศยูเครน )  เคียฟเป็นเมืองหลวง  เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของยูเครน       ปีกลายเมืองนี้เป็น 1 ใน 4 เมืองเจ้าภาพฟุตบอลชิงแชมป์ชาติยุโรป 2012  

              ผมได้เห็นโบสถ์แบบติสท์  ที่มีคนเข้ามาร่วมประชุมเต็มโบสถ์  แต่ส่วนมากเป็นสตรีชรา  ไม่ค่อยเห็นหนุ่มสาว  ได้ยินเขาร้องเพลง “พระคุณพระเจ้านั้นแสนชื่นใจ  ช่วยได้คนชั่วอย่างฉัน” เป็นภาษารุสเซีย ฟังแล้วผมน้ำตาซึม  เพราะรู้ว่าพวกเขารักพระเจ้า  ทั้งๆ  การเป็นคริสเตียนของพวกเขาถูกเพ่งเล็ง   แม้เราจะสื่อกันไม่ได้เลย  ผมทราบข่าวว่า  รัฐบาลสมัยนั้นค่อนข้างเข้มงวดกับหนุ่มสาวที่สนใจศาสนา  ทำให้รู้สึกตึงเครียด   ก่อนเข้าไปในประเทศก็แลกเงินดอลล่า เป็นรูโบล  เพื่อจะได้ซื้อของ  ซุปเปอร์มาเก็ต ในสมัยใหม่นั้น  มีของขายไม่มากเหมือนซุปเปอร์บ้านเราเลย  สบู่ ยาสีฟัน  ไม่มีกล่อง ไม่มีแบรน หรือมีสีสันอะไร  เป็นกล่องสีน้ำตาลธรรมดาๆ  ได้ยินว่า  รัฐเป็นผู้ผลิตเอง ไม่ต้องขายแข่งกับใคร  ก็ไม่ต้องโฆษณา การพิมพ์เป็นสีก็เสียค่าใช้จ่ายเปล่าๆปี้ๆ   ตึกที่ทำการของรัฐใหญ่สง่า  Public Park หรือ สวนสาธารณะของเมืองปลูกดอกไม้สวยงาม มีคนมาก  ยังจำได้ว่า  มีคนนั่งเล่นหมากรุกกันเป็นคู่ๆ  ส่วนป้ายโฆษณาเรื่อง  “ประเทศปกครองโดยคนชั้นกรรมาชีพ” นั้นมีอยู่ทั่วไป 

              ได้พบคริสเตียนหนุ่มคนหนึ่ง  เขาเล่าให้ฟังว่า  ผู้เชื่อในประเทศมีไม่น้อย  แต่ส่วนมากร่วมประชุมกันตามบ้าน  เขากล้าหาญในการเป็นพยานส่วนตัว 

ครับ  เขาทำได้เฉพาะส่วนตัว  ตัวต่อตัว  ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าเจอเจ้าหน้าที่เข้า  เขาจะมีอันตราย   เพราะศาสนาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย  แต่เขาก็ไม่กลัว  และไม่ส่อแววตาแห่งความหวาดกลัวเลย  ผมอดคิดไม่ได้ ถึง คริสเตียนไทย  ที่มีอิสระในการประกาศพระกิตติคุณ 100 %  พูดเรื่องพระเจ้ากับใคร  ที่ไหนก็ได้  ร้องเพลงเล่นกีต้าร์ข้างถนน  แจกใบปลิวเรื่องพระเจ้าได้ทุกที่  แต่เราก็ยังแลไม่เห็นว่าเป็นโอกาสทองอะไร  เรายังเป็นคริสเตียนเงียบเฉยกันเสียมาก  

              ผมเคยอ่านเรื่องของริชาร์ด วัมแบรน   ศิษยาภิบาลคริสตจักรอังลิกัน ในโรมาเนีย   ที่ถูกจับขังคุก และถูกทรมาน เมื่อรุสเซียเข้ามายึดครองประเทศโรมาเนีย  ทำให้รู้ว่า  คริสเตียนหลายคนต้องทนทุกข์เพราะความเชื่อ  ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า  คริสเตียนไทย  มีโอกาสดีแค่ไหน  ที่เรารับเชื่อและรับใช้โดยไม่ถูกข่มเหง  

             ความจริงในเมืองเคียฟ  มีโบสถ์ของกรีก ออโธ  ด็อก  อยู่หลายแห่ง  สังเกตได้จากรูปวิหารที่มีโดมเป็นหลังคา  แต่สมาชิกก็เชื่อถือพระเจ้า  เป็นแค่ศาสนามากกว่า  ผมทราบว่า  คริสเตียนรุสเซีย อธิษฐานเผื่อประเทศของตนมาก  พวกเขาทูลขอให้มีอิสรภาพมากขึ้นในการเผยแพร่ 

              เมื่อสหภาพรุสเซียล่มสลาย  ผมจึงเชื่อว่า  เป็นคำตอบมาแต่พระเจ้าอย่างอัศจรรย์

              ผมจะเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับรุสเซีย     

             เมื่อปี  1991  ยี่สิบสองปีที่แล้ว  สหภาพโซเวียตรุสเซีย ล่มสลาย  ทำให้สาธารณรัฐต่างๆ  แบ่งแยกตั้งเป็นประเทศทั้งหมด 15 Post-Soviet states in English alphabetical order:
 1. Armenia; 2. Azerbaijan; 3. Belarus; 4. Estonia;
5. Georgia; 6. Kazakhstan; 7. Kyrgyzstan; 8. Latvia;
9. Lithuania; 10. Moldova; 11. Russia; 12. Tajikistan;
13. Turkmenistan; 14. Ukraine; 15. Uzbekistan

    ประเทศ  หลังจากแยกตัวออกมาปกครองตัวเอง อย่างเอกเทศแล้ว  ประเทศเหล่านี้มีการรวมกลุ่มกันเป็น  สหรัฐอิสระ ( CIS ) ยกเว้น เอสโตเนีย  ลัตเวีย  และลิทัวเนีย   ประเทศต่างๆเหล่านี้ได้แก่ (1) ประเทศอาเมเนีย (2) ประเทศอาเซอไบจาน (3) ประเทศลเบลารุส (4) ประเทศเอสทัวเนีย (5) ประเทศจอร์เจีย (6) ประเทศคาซัคสถาน  (7) ประเทศเคอจิสถาน (8) ประเทศลัทเวีย (9) ประเทศลิทัวเนีย (10)  ประเทศมอลโดวา (11) ประเทศรุสเซีย (12) ประเทศทาจิกีสถาน (13) ประเทศเติร์กเมนิสถาน (14) ประเทศยูเครน  และ (15) ประเทศอูเบกิสถน 

     ขอเล่าย้อนอดีตไปสักหน่อย 

              การก่อตัวของสภาพโซเวียต  เกิดขึ้นเมื่อมีการปฏิวัติรุสเซีย ในปี 1917 มีการโค่นล้มระบบกษัตริย์  การปกครองของพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2   สหภาพโซเวียตเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ประเทศแรกของโลก   โดยการปกครองมาเป็นระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์  ภายใต้การนำของกลุ่มบอลเชวิค หรือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต เป็นพรรคการเมืองเบ็ดเสร็จพรรคเดียว  กำหนดนโยบายต่างๆ ทั้งหมด   มี วลาดิมีร์ เลนิน หัวหน้าพรรคบอลเชวิก เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของรุสเซีย  ในปี 1922  เลนิน ทุ่มเทพัฒนาเศรษฐกิจ  ตาม “นโยบายเศรษฐกิจแนวใหม่” ล้มระบบทุนนิยม   ผู้สืบทอดตำแหน่งจากเลนิน  คือ โจเซฟ สตาลิน   ปี 1924  สตาลินได้เริ่มแผนนำสหภาพโซเวียตสู่ยุคม่านเหล็กที่ลึกลับ  ปิดประเทศจากโลกเสรี  และปกครองประเทศแบบเด็ดขาด โหดเหี้ยม  มีการก่อตั้งนารวม (Collective farm) มีการสร้างค่ายกักกัน ผู้ที่ไม่เห็นด้วย  ว่ากันว่า มีนักโทษเสียชีวิตในค่ายกักกันของรุสเซีย ในสมัยของสตาลิน ถึง 60 ล้านคน   สตาลิน นำโซเวียตชนะทหารนาซี ของฮิตเลอร์  ในสงครามโลกครั้งที่สอง  ทั้งสามารถยึดกรุงเบอร์ลิน ของเยอรมันได้ (1945)     ปี 1953  หลังจากสตาลินเสียชีวิต  นิกิตา ครุฟซอฟ  ผู้นำคนใหม่ ได้ผ่อนคลายความตึงเครียดลง   ทั้งประณามความรุนแรงของ สตาลินด้วย  ตอนผมเป็นเด็ก  ชื่อของผู้นำรัสเซียที่คุ้นหูก็คือ ครุฟซอฟ(ค.ศ. 1964-1982)     ต่อมาหลังจากครุฟซอฟ  ก็เป็น    เลโอนิด เบรจเนฟ ยูนิ  แอนโดปอฟ (1982-1984)  และ คอนสแตนติน เชเนอโก (1984)

                 กลับมาเล่าว่า  การล่มสลายของสหภาพโซเวียต เกิดขึ้นได้อย่างไร

                 ในช่วงปี 1985 ถึง 1991 มิคาเอล กอร์บาชอฟ  เป็นผู้นำของสหภาพโซเวียต   เขาเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจ และการเมือง ภายใต้นโยบาย  เปเรสตรอยกา ( การวางโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่)  และกลาส์น็อต( การเปิดกว้างทางการเมือง) เพื่อเพิ่มเสรีภาพให้กับประชาชน  และเปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนบุคคล  นโยบายนี้  มีเหตุมาแต่เศรษฐกิจของรุสเซียก่อนหน้านั้น  ได้รับผลเสียมาจากอัตราเงินเฟ้อ  และการขาดแคลนวัตถุดิบ 

             ว่ากันว่า  นโยบายนี้ของเขานี้เอง เป็นเส้นทางไปสู่การล่มสลาย 

             ผมไม่ทราบว่าท่านคิดถึงนโยบายนี้ได้อย่างไร  ผู้นำคอมมิวนิสต์เองตัดสินใจลดความเข้มงวดลงได้อย่างไร  ท่านทำทั้งๆ ฝ่าเสียงคัดค้านของจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมภายในลัทธิคอมมิวนิสต์   ส่วนตัวผมเชื่อว่า  มาแต่แรงอธิษฐานของผู้เชื่อ  และพระเจ้าเบื้องบน   ทำให้ผมนึกถึง  การที่ฟาโรห์ กษัตริย์ของอียิปต์ ที่ให้โยเซฟแก้ฝัน  และตั้งโยเซฟเป็นนายกรัฐมนตรีของอียิปต์ ( ปฐมกาล 41:1-40 ) ทำให้ผมนึกถึง  ไซรัส  พระราชาเปอร์เซียที่ได้รับการรบเร้าใจอนุญาตให้   ยิวกลับบ้านไปสร้างเยรูซาเล็ม ( เอสรา 1:1-4 )   ครูจักกฤษณฺ ดาวไธสง  โรงเรียนพิมายวิทยา นครราชสิมา  ได้กล่าวไว้ในบทความ เรื่องการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์  เมื่อ 7 สิงหาคม 2009 ว่า  “กอร์บาชอฟ  ได้ปลดปล่อยพลังที่จะทำลายสหภาพโซเวียตไปแล้ว โดยไม่ได้ตั้งใจ”  เพราะเป็นการปลุกเร้าความรู้สึกชาตินิยม  และต่อต้านรุสเซียในสาธารณรัฐเล็กๆ  ที่เป็นชนกลุ่มน้อยในสหภาพโซเวียต  ที่แตกต่างกันในวัฒนธรรม  เชื้อชาติ สังคม และศาสนา

            และบุคคลแรกที่เดินหน้าประกาศว่าสหพันธ์รัฐรุสเซีย  ขอแยกออกเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต  คือ นาย บอริส เยลท์ซิน   ในปี 1990    เป็นการปฏิวัติออกจากสหภาพโซเวียตที่มีนายกอร์บาชอฟเป็นผู้นำ  ประชาชนพากันออกมาเต็มถนน  ขานรับเขา  อย่างนิ่มนวล  แบบไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ  เป็นเหตุให้สาธารณรัฐอื่นๆ เคลื่อนไหวแยกตัวเป็นอิสระตามมา  ดังที่กล่าวถึงแต่ต้น ในปี 1991   จึงมีประเทศเกิดใหม่ถึง 15 ประเทศ จากสหภาพโซเวียตที่เป็นมหาอำนาจ มาตั้งแต่สมัยของเลนิน  

            และนี่คือการล่มสลายของโซเวียตรุสเซีย   แต่ละประเทศเกิดใหม่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของตน  อย่าง ประเทศยูเครน  ที่ผมเคยไปนี่ก็มี  ลีโอนิด เครฟชุก เป็นผู้นำคนแรก  เริ่มมีทหารของตนเอง  ไม่มีการทะเลาะกันเพราะทหารรุสเซียรักษาการอยู่ในยูเครน  จนแทบเรียกว่ายูเครนคือบ้านของตนเอง  หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต  บรรยากาศในประเทศเหล่านี้ก็เปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาในประเทศมากขึ้น กว้างขวางขึ้น  ซึ่งเป็นประตูสูการประกาศพระกิตติคุณทวีขึ้นอย่างอัศจรรย์

              ผมเขียนบทความทั้งหมดนี้  เพื่อชี้ให้เห็นว่า  พระเจ้าทรงอยู่เหนือสถานการณ์  โดยการอธิษฐาน  พระเจ้าสามารถเปิดประตูการประกาศพระกิตติคุณอย่างอัศจรรย์  นี่เป็นหมายสำคัญอีกประการหนึ่งว่า  การเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูใกล้ยิ่งขึ้น  พระองค์เคยตรัสว่า  “ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าจะได้ประกาศไปทั่วโลกให้เป็นคำพยาน  แก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” ( มัทธิว 24:14 )  ถ้าประเทศจำนวนมากยังปิดประเทศ  พระสัญญานี้จะสำเร็จได้อย่างไร    

             เหตุฉะนั้นให้เราเร่งประกาศพระกิตติคุณ  ในขณะที่เรามีโอกาสอันประเสริฐ  ในประเทศไทย  เรากำลังอยู่ในช่วงเวลายุคสุดท้าย  อย่าให้เราหลงใหลไปกับโลก หรือสิ่งอื่น  ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ   

             The Broken Empire  is His Provision.

            In the year 1991 The soviet Union had collapsed. The empire were divided into 15 countries, peacefully. It could be the provision of God. It could be the answer of thousands of believers prayer requests. God want to open the door for the Gospel more and more in the world. For Jesus said that “The Gospel of the Kingdom shall be preached in all the world for a witness unto all nations; and then shall the end come.” (Mathew 24:14)  So we should be alert and do the out reaching as the doors are opened.

 

          God bless. Pastor   

 

 

 

 

 

 

  

 

 

 


















Visitor 275

 อ่านบทความย้อนหลัง