ทรงรักมั่นมิผันแปร

 Thy Love Is Faithfulness.

 ศ.บ

 

 

            “เพราะว่า เราคือพระเจ้าไม่มีผันแปร”  (มาลาคี 3:6)

             สังคมโลกที่เราอาศัยอยู่   ความไว้เนื้อเชื่อใจ  เป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หามากที่สุด   เปาโลว่า “คนชั่วและคนเจ้าเล่ห์จะเลวลง  ทั้งล่อลวงคนอื่น  และถูกคนอื่นล่อลวงด้วย” (2 ทิโมธี 3:13)  “ในสมัยสิ้นยุค....จะมีคนที่แอบไปตามบ้าน  และลวงหญิงที่เบาปัญญา”  (2 ทิโมธี 3:6 )  คำนี้ของเปาโลเป็นจริงที่สุดในปัจจุบัน  คนไทยเราสอนกันว่า “อย่าไว้ใจทาง   อย่าวางใจคน จะจนใจเอง”  เราว่า “รู้หน้า ไม่รู้ใจ”  เพราะบางคนอาจเป็นประเภท “ปากว่า  ตาขยิบ”  “วาจาปราศรัย น้ำใจเชือดคอ” ตอนเป็นนักเรียน  ผมท่องโคลงโลกนิติ     

                    ช้างสาร หกศอกไซร้             เสียงา

   งูเห่า กลายเป็นปลา                    อย่าต้อง

   ข้าเก่า เกิดแต่ตา                         ตนปู่

   เมียรัก อยู่ร่วมห้อง                      อย่าไว้วางใจ 

              เป็นอันว่า  ในโลกใบนี้เราไว้ใจใครได้บ้าง   โคลงบทนี้ว่า แม้คนใช้เก่าแก่  อยู่มาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาย  อย่าเชื่อใจนะ  เพราะแกหักหลังเราได้ทุกเมื่อ  หนักกว่านั้นอีก  ผัวอย่าไว้ใจเมีย  เมียอย่าวางใจผัว  คู่ครองเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ  สมัยแต่งงานกันใหม่ ๆ ก็บอกเราว่าจะรักเราคนเดียว  ไม่ผันแปร   อยู่ไปนานวัน  ผู้หญิงชราลง  น้ำหนักมากขึ้น  เนื้อหนังมังสาหย่อนยานลง ผมเผ้าก็ออกสีดอกเลา  ฟันฟางหัก  ใส่ฟันปลอมแทนไม่รู้กี่ซี่  หนังตาหย่อนลง  อะไรๆก็หย่อนยานลงหมด ที่ตึงมีอยู่อย่างเดียว  คือหู  ภรรยาหลายคนเจอคู่แข่งใหม่  คือสาวเอ๊อะๆ  และสาวทุกวันนี้ก็ย่อยซะที่ไหน   พร้อมแลกตัว กับเงินหรือความสำราญเฉพาะหน้าได้โดยง่ายเสียด้วย   สิ่งที่พ่อหนุ่มเคยสัญญิงสัญญาอะไรในอดีตนั้น   พ่อหนุ่มหักได้ทุกเมื่อ  

               ในสภาพเช่นนี้   เราจะอบอุ่นได้อย่างไร   ในสมัยที่ผมทำงานเป็นพนักงานขายของบริษัท   เพื่อให้ขายแข่งขันกับคู่แข่งได้  บริษัทต้องเปิดให้ลูกค้า ซื้อของได้ด้วยสินเชื่อ   คือซื้อแล้วค่อยๆทะยอยผ่อนชำระ   ลูกค้าก็สั่งของมา   แต่บริษัทก็มีกำหนดว่าจะค้างชำระได้นานเท่าไร   เช่น 3  เดือน 6 เดือน  ต่อมา มีลูกค้าจำนวนมากไม่ชำระหนี้ตามกำหนด  บริษัทก็ไม่อนุญาตให้สั่งสินค้าใหม่อีก  บางรายค้างจ่ายนาน  ทวงเท่าไรก็ไม่ได้เงิน  บริษัทก็ประทับตราที่หน้าชื่อลูกค้า ว่า เครดิตเสีย (Bad Credit)  บริษัที่ผมทำงานมีลูกค้าประเภทนี้เป็นปึก  เขาสั่งพนักงานขายทุกคนว่า  “ไม่ขายของให้ รายนั้นๆแล้ว”  ไม่นานมานี้   นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร เปิดเผยว่าปัจจุบันคนไทยเป็นหนี้ โดยไม่สามารถใช้หนี้ถึง 9,000,000 คน  มากโขอยู่  วันนี้คนไทยเป็นหนี้เพิ่มขึ้นทุกปี  คนมีเงินเดือน 10,000 บาท ต้องแบ่งไปใช้หนี้ถึง 6,500 บาท  ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง    การหย่าร้าง ก็เหมือนกัน ข้อมูลจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลบอกว่า สองปีที่แล้ว (2012) คนไทย จดทะเบียนสมรส 314,338 คู่   แต่หย่าร้างมีมากถึง 111,377  คู่  (35.43%)   ล่าสุด (2014) คนไทยจดทะเบียนสมรสลดลง  คือ 298,258 คู่  แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มขึ้นเป็น  111,810   คู่  (37.74%) แปลหยาบๆ คือ  แต่งงาน 3 คู่  จะหย่าร้าง  1 คู่   และกำลังเพิ่มขึ้นเป็นแต่ง  2  คู่จะหย่าร้าง 1 คู่  

 

 

 

             พระเยซูทรงสัตย์ซื่อ

เมื่อเรามาหาพระเจ้า  พระองค์ตรงกันข้ามกับ  ระบบของโลก  เมื่อพระองค์สัญญาอะไรกับเรา  พระองค์ทรงรักษาคำมั่นสัญญา   กันดารวิถี 23:19  กล่าวว่า “พระเจ้าไม่ใช่มนุษย์  จึงมิได้มุสา  และมิได้เป็นบุตรของมนุษย์  จึงไม่ต้องกลับใจ   ที่พระองค์ตรัสไปแล้ว  พระองค์จะมิทรงกระทำตามหรือ  ที่พระองค์ทรงลั่นวาจาแล้ว  จะไม่ทรงกระทำให้สำเร็จหรือ”

              พระเยซูทรงสัญญากับเราว่า  พระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี  เราเป็นลูกแกะ  พระองค์ไม่เหมือนผู้เลี้ยงรับจ้าง  เห็นสุนัขป่ามา ก็ไม่หนีเอาตัวรอด  แต่พระองค์ทรงห่วงใยแกะ  พร้อมสละชีวิตเพื่อแกะ (ยอห์น 10:11-13)  อีกครั้งหนึ่งพระองค์ตรัสว่า “ผู้ที่มาหาเรา  เราจะไม่ทิ้งเขาเลย” (ยอห์น 6:37)   ในชีวิตผม  ผมไม่เคยเห็นพระเยซูทิ้งใคร  เห็นแต่คนทิ้งพระเยซู   วันที่พระองค์ถูกจับอายัด เปโตรปฏิเสธ  พวกสาวกวิ่งหนีเอาตัวรอดกระเจิดกระเจิง  ยกเว้นยอห์น   แต่พระเยซูรักพวกเขาไม่แปรผัน  เมื่อรักแล้ว ก็รักเลย  รักตลอดไป  รักชั่วนิตย์นิรันดร  อมตะถาวร  เปาโลกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า  แม้ความตาย  หรือชีวิต.. หรือสิ่งใดๆ ก็ไม่สามารถกระทำให้เราทั้งหลายขาดจากความรักของพระเจ้า  ในพระเยซูได้” (โรม 8:38-39)

               พระเยซูทรงเป็นเจ้าบ่าวผู้รักษาสัตย์

               เราถูกเปรียบกับเจ้าสาวของพระเยซู  พระองค์คือเจ้าบ่าว พระองค์ให้นามสกุลใหม่กับเรา (อิสยาห์ 43:1) ในโลกใบนี้สามีบางคนอาจหักคำมั่นวันสมรส  แต่พระเยซูไม่มีวันทำเช่นนั้น  ในโลกนี้อาจมีแม่บางคนทิ้งลูกตัวเอง  แต่พระบิดาไม่มีวันทอดทิ้งท่าน พระองค์มิได้รักเราเพราะเราทำดีมีความสามารถ  แต่ทรงรักเรา เพราะเราเป็นเรา  หนุ่มบางคนรักสาว  เพราะเธอสวย  อวบอัด จิ้มลิ้มพริ้มเพรา หน้าตาดีมีเสน่ห์  วันหนึ่งเธอไม่งามเหมือนเดิม ความรักของพ่อหนุ่มก็หายไป   บางคนรักและเลือกแต่งก็เพราะ  เธอมีดีกรี มีวุฒิ  มีงานทำ มีฐานะ ออกแขกออกงานก็เป็นหน้าเป็นตา วันหนึ่งเธอตกงาน หมดสภาพ  แถมมีหนี้มีสิน สุขภาพก็แย่ลง  ที่เคยพูดกันเพราะๆ  ก็เริ่มมีปากมีเสียง  ลงมือลงไม้  ความรักก็บินหนีไปเหมือนนก  ทอดทิ้งเธอให้โดดเดี่ยวเดียวดาย  น้ำตาเช็ดหัวเข่า

 

 

 

               ทรงสัญญาจะปั้นเราให้สำเร็จ     

              เปาโลกล่าวว่า “ข้าพเจ้าแน่ใจว่า  พระองค์ผู้ทรงตั้งต้นการดีไว้ในพวกท่านแล้ว  จะทรงกระทำให้สำเร็จ จนถึงวันแห่งพระเยซูคริสต์” (ฟิลิปปี 1:6)   ผมชอบคำสัญญานี้   วันที่เราเข้ามารับเชื่อ  สมัครเป็นลูกของพระองค์  นั่นคือวันเริ่มต้น ที่พระองค์ทรงทำการดีกับเรา   เป้าหมายคือ  วันหนึ่งเราจะเป็นผู้ใหญ่  มีความรู้ความเข้าใจ สงบ อดทน ร่าเริง ถ่อมใจ น่ารักน่าชม เข้มแข็งกล้าหาญ มีศักยภาพในการรับใช้  เป็นคนดีมีประโยชน์ ประสบพบความสำเร็จ คือเราจะเหมือนพระเยซู ในขณะที่วันนี้ เรายังซื่อบื้อ  โง่เง่าเต่าตุ่น  โง่งอนสอนยาก ขี้ยั๊วะ  อมทุกข์  ขี้ขลาด  ขี้ท้อ  อ่อนแอ  สามวันดีสี่วันแพ้   สามวันล้าห้าวันถอย  นี่ถ้าเป็นใครในโลกนี้  ก็เทเราทิ้งไปทั้งกระจาดแล้ว   

             แต่พระเยซูไม่เป็นเช่นนั้น  

             ทรงปล้ำสู้ปรับปรุงจรุงแต่ง   “ความรักนั้นอดทนนาน  กระทำคุณให้... ไม่ช่างจดจำความผิด  ไม่ยินดีเมื่อประพฤติผิด  แต่ยินดีเมื่อประพฤติชอบ  มีความหวังอยู่เสมอ”  ผิดแล้วผิดซ้ำ  ก็แก้แล้วแก้ซ้ำ  จ้ำจี้จ้ำไช  ว่าวอนสอนปั้น  ใครๆมาถามถึงเรา  กับพระเยซูว่า ไม่เบื่อบ้างรึไง  พระองค์จะตอบเขาว่ายังไงรู้ไหม  พระองค์จะตอบกลับไปว่า “เขาดีได้นา  เขาดีได้แน่  เชื่อซิ  เขาดีได้แน่” 

           เราชอบเช็คบิลคน  สรุปชีวิตคน  แต่พระเยซูมีความหวังอยู่เสมอ  แล้วพระองค์ก็ทำจริงๆ  ทำต่อ  ไม่เลิกไม่รา   พ่อแม่มีการยกธงขาวยอมแพ้ในการปั้นลูกด้วยรึ  อาจมีบางคนอาจตัดหางปล่อยวัด  แต่พระองค์จะทรงปั้นเราให้สำเร็จ   จะทรงฝึกฝนเราให้เป็นตัวเป็นตน  เป็นหลักเป็นฐาน  ก็ดูพระเยซูปั้นซีโมนเปโตรสิ  ปั้นจนเปโตรกลายเป็นหัวเรือใหญ่ เป็นหลักให้คริสตจักรที่เยรูซาเล็มได้   ในโลกเรามีคนที่ทำงานไปครึ่งๆ กลางๆ แล้วเลิกรา  เพราะพบอุปสรรค   ในวงการกีฬามี ครูฝึกที่ปั้นลูกทีมเพื่อไปแข่งขัน  บางครั้งลูกทีมเหลวไหล เจ็บป่วย ท้อถอย ทะเลาะกัน ครูฝึกที่ดี  ต้องพยายามเอาชนะปัญหาทุกอย่าง  ปั้นลูกทีมจนสำเร็จ  ท่านคิดว่า พระเยซูเป็นครูฝึกแบบไหน   พระองค์เป็นครูฝึกที่เหยาะแหยะหรือ  จะเลิกกลางคันหรือ  ผมจะบอกให้  พระองค์เริ่มต้นแล้ว  พระองค์จะไม่มีวันให้เราออกจากสนามแข่ง  แพ้วันนี้ก็สู้ต่อในวันหน้า  จนกว่าวันหนึ่งเราจะคว้าถ้วย

รางวัล  (ในวันแห่งพระเยซูคริสต์)  ถ้าเราไม่ เซย์ กู้ดบาย ลาพระองค์ออกไปจากทีมเสียก่อน   รับรองว่า  เราจะได้เห็นวันนั้นแน่   เพราะเรามีครูฝึกที่แพ้ไม่เป็น  นี่คือความอบอุ่นพิเศษที่พระเจ้ามอบให้เรา 

 

 

 

             เราต้องสะท้อนพระลักษณะของพระองค์

            เราต้องมีวาจาสัตย์  

               เมื่อลั่นปากแล้ว  เราต้องรักษาคำมั่นสัญญา  ไม่โลเล  แต่ไว้วางใจได้  เชื่อถือได้  เครดิตมิได้เกิดขึ้นมาในวันสองวัน  แต่เราต้องค่อยๆสร้างขึ้น   โลกต้องการคนที่ไว้วางใจได้  เรามีพระเยซูเป็นแบบ ผู้มั่นคง ไม่ผันแปร  ยิ่งกว่านั้น  ผู้เชื่อทั้งหลายต้องสร้างสังคมใหม่ ให้โลกไว้วางใจ  ถ้ายืมเงินเขา  ก็คืนตามสัญญา  ถ้ารับปากเขาก็ทำตามที่บอก 

              คริสเตียนต้องสร้างเครดิตให้พระเยซู  

              เมื่อผมเดินทางไปอเมริกาครั้งแรก  อาจารย์มณเฑียร  คริสตจักรไทยลาวที่นั่นเชิญผมไปเทศนา   ผมนำจดหมายเชิญไปขอวีซ่าที่สถานทูตอเมริกา   เจ้าหน้าฝรั่งสัมภาษณ์ผม   ถามว่าผมจะไปอเมริกาทำอะไร  ผมบอกว่า จะไปเทศนาที่นั่น  เขายิ้มๆ ถามว่าผมทำงานอะไรที่เมืองไทย  ผมบอกว่าผมเป็นนักเทศน์  ผมสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ฝรั่งที่สถานทูต  ซักถามและไม่ค่อยไว้วางใจผม  ผมนึกในใจ  ว่า  นักเทศน์ไทยที่เดินทางไปอเมริกา  ช่างไม่มีเครดิต กับสถานทูตอเมริกันเอาเสียเลย   ผมไม่ทราบว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น   ผมได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้ผู้นำที่นั่นบางคนฟัง  เขาก็บอกว่า  ในอดีต  นักเทศน์ไทยที่ขอเดินทางไปที่นั่น มักไม่ทำตามที่ขอ  พอไปจริง  หลายคนไปไม่กลับเมืองไทย  หลายคนไม่ได้ไปรับใช้อย่างที่แจ้งเจ้าที่ตอนขอวีซ่า  แต่เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น  หลายครั้งเข้า เขาก็ไม่วางใจ  เครดิตนักเทศน์ไทยจึงไม่ดีในสายตาเขา   ถึงวันนี้ผมไม่ทราบว่าดีขึ้นหรือไม่   เครดิตต้องสร้างครับ  สร้างให้คนเชื่อถือ  เรามีพระเยซูเป็นแบบแล้ว มิใช่หรือ 

              เมื่อเราตั้งใจปั้นคน  เราเริ่มมาดีแล้ว  อย่าเลิกเสียกลางคัน  อย่าสลัดลูกฝ่ายวิญญาณของเราทิ้ง  เพราะไม่ได้ดังใจเรา  พระเจ้ามุ่งมั่นทำให้สำเร็จ  เราจะทำสิ่งที่สวนทางกับพระองค์ได้อย่างไร  พระองค์มิได้ทอดทิ้งเขา  เราจะทิ้งเขาได้อย่างไร  ขอให้เราดูพระเยซูเป็นแบบ พระองค์เป็นผู้เลี้ยงที่ไม่ทิ้งลูกแกะ  

               ขอพระเจ้าอวยพรครับ  

 

 

 

 




 

 

 

 






Visitor 84

 อ่านบทความย้อนหลัง