“พลังฝ่ายวิญญาณ ในการเผยแพร่ และเพิ่มพูนคริสตจักร"

 

ซี ปีเตอร์ แวคเนอร์


คัดมาจาก “Warfare Prayer” ของ ซี ปีเตอร์ แวคเนอร์ (1992)
ไม่ใช่คนที่ออกไปเผยแพร่พระกิตติคุณ จะเป็นผู้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันหมดทุกคน ซึ่งหากสิ่งที่ผมกล่าวนี้เป็นความจริง ก็เป็นการดีถ้าเราจะเรียนรู้ว่า ใครคือผู้ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิ ภาพมากที่สุด และอะไรคือสิ่งที่เขาลงมือกระทำ ในขณะที่คนอื่นไม่ทำ นี่เป็นงานที่ครูด้านวิชาเพิ่มพูนคริสตจักรอย่างผมจะต้องค้นหาให้พบ ผมได้ศึกษาว่าทำไมคริสตจักรหนึ่งเพิ่มพูน ในขณะที่อีกคริสตจักรหนึ่งไม่โตขึ้น มาเป็นเวลาร่วม 2 ทศวรรษ แล้วผมก็พบคำตอบขึ้นมาหลายข้อ หลายประการ


สาเหตุที่คริสตจักรใดเพิ่มพูน เติบโต ขยาย มักมีองค์ประกอบหลายอย่าง ซึ่งมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันเมื่อเรามาวิเคราะห์ ว่าทำไมคริสตจักรหนึ่งเพิ่มพูน แต่อีกคริสจักรกลับมีสมาชิกลดลง ๆ ดังนี้

(1) องค์ประกอบเกี่ยวกับสถาบัน ( Institutional Factors ) คริสตจักรสามารถเปลี่ยนแปลง ถ้าอยาก จะเปลี่ยนมันจริง ๆ
(2) องค์ประกอบเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ( Contextual factors) อันได้แก่สภาพของสังคมล้อมรอบ ซึ่งเรื่องนี้คริสตจักรไม่มีอำนาจไปเปลี่ยนแปลงอะไร และ
(3) องค์ประกอบฝ่ายวิญญาณ ( Spiritual factors ) ซึ่งสะท้อน ให้เห็นว่าพระหัตถ์ของพระเจ้ากำลังทำการอะไรอยู่


เมื่อเรามองดูการเพิ่มพูนมากน้อยที่เกิดขึ้นในโลก เราจะพบว่า เรื่ององค์ประกอบของสถาบัน และ องค์ประกอบสภาพแวดล้อม หาได้เป็นประเด็นหลักไม่ แต่อยู่ที่องค์ประกอบฝ่ายวิญญาณมากกว่า เรื่องนี้ปรากฏชัดเจน เมื่อเราเห็นการเพิ่มพูนของกลุ่มเพนเตคศ และกลุ่มแคริสเมติก ในช่วง 40-50 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า จะมีการเพิ่มพูนขนานใหญ่เกิดขึ้นเกิดขึ้นท่ามกลางกลุ่มที่ไม่ได้เน้นเรื่องฤทธิเดช และก็มีกลุ่มที่เน้นเรื่องฤทธิ์เดชพระวิญญาณหลายคริสตจักร หลายคณะที่ไม่เพิ่มพูน แต่ความจริงยังคงปรากฏว่า ในไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา การเพิ่มพูนคริสตจักรที่น่าทึ่ง อย่างกว้างขวางเกิดขึ้นท่ามกลางคริสตจักรที่พึ่งฤทธิ์เดชของพระวิญญาณ ที่เรียกว่าคริสตจักรเพนเคตคศ หรือคริสตจักรแคริสเมติก


การเคลื่อนไหวของผู้ที่เชื่อในฤทธิ์เดชของพระวิญญาณ เริ่มก่อตัวขึ้นมาในศตวรรษที่ 20 แต่การเพิ่มพูนขนานใหญ่ยังไม่เริ่มขึ้นจริงจังจนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงนั้น ปี 1945 ประมาณว่ามีผู้เชื่อทั่วโลกประมาณ 16 ล้านคน พอมาถึงปี 1965 ผู้เชื่อทั่วโลกเพิ่มขึ้น เป็น 50 ล้านคน ในปี 1985 เพิ่มขึ้นเป็น 247 ล้านคน และปี 1991 ผู้เชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 391 ล้านคน
เฉพาะคณะ Assembly of God คณะเดียว มีผู้เชื่อเพิ่มจาก 1.6 ล้านในปี 1965 เป็น 13.2 ล้านคนในปี 1985 ถึงแม้คณะนี้จะเป็นคณะค่อนข้างใหม่ แต่ก็เป็นคณะที่มีผู้เชื่อมากเป็นอันดับ 2 ในมากกว่า 30 ประเทศในโลก เฉพาะในบางเมือง เช่น ซาล เปาโล ในประเทศบราซิล คณะนี้มีคริสตจักรถึง 2,400 คริสตจักร ส่วนคริสตจักรที่เพิ่มพูนเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นคริสตจักรอิสระที่เชื่อในฤทธิเดชพระวิญญาณ อาจมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง แต่คริสตจักรใหญ่ในอเมริกาเกือบทุกแห่งเป็นคริสตจักรที่เชื่อในฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตจักร 6 แห่งของโลกที่มีคริสตสมาชิกมากกว่า 50,000 คน เป็นคริสตจักรที่เชื่อฤทธิเดชพระวิญญาณทั้งหมด


แม้ว่าผมจะมิได้เป็นนักประวัติศาสตร์อาชีพ แต่ผมก็กล้าหาญพอที่จะตั้งเป็นข้อสังเกตเช่นนี้ ผมคิดว่า ตามประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ที่ไม่เกี่ยวกับการบ้านการเมือง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดที่เพิ่มพูนอย่างเหลือเชื่อเท่ากับการเคลื่อนไหวของผู้เชื่อฤทธิ์เดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา


กิจการ 1:8 “แต่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้รับ​พระ​ราชทาน​ฤทธิ์​เดช เมื่อ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​จะ​เสด็จ​มา​เหนือ​ท่าน และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​เป็น​พยาน​ฝ่าย​เรา​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย แคว้น​สะมาเรีย และ​จนถึง​ที่สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก”


คงจะเป็นการดี ถ้าคนอย่างผม ผู้ซึ่งเติบโตขึ้นมาจากคริสตจักรทั่วไป จะเปิดใจเรียนรู้เรื่องนี้จากพี่น้องในคริสตจักรที่เชื่อในฤทธิเดชพระวิญญาณ สิ่งสำคัญ ที่ผมแลเห็นก็คือ เขาเข้าใจว่า เขากำลังเข้าสู่สงคราม เพราะการประกาศพระกิตติคุณเป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ หมายสำคัญ การอัศจรรย์ การปลดปล่อยคนจากอำนาจมาร การบำบัดรักษาโรคอย่างอัศจรรย์ การนมัสการอันน่าตื่นเต้น การเผยพระวจนะ และการทำสงครามด้วยการอธิษฐาน สำหรับหลายคนเป็นเรื่องสามัญ


พระเยซูทรงบัญชาว่า “ จง​รักษา​คน​เจ็บป่วย​ให้​หาย คน​ตาย​แล้ว​ให้​ฟื้น คน​โรค​เรื้อน​ให้​หาย​สะอาด และ​จง​ขับ​ผี​ให้​ออก ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้รับ​เปล่าๆ จง​ให้​เปล่าๆ” (มัทธิว 10:8 )


การใช้ฤทธิเดชฝ่ายวิญญาณ ในการนำคนจำนวนมากมาถึงพระเยซูคริสต์ เป็นคำตอบ คำถามที่ผมอยากรู้อยู่แล้ว
เราจะต้องสังเกตว่าพระเจ้ากำลังกระทำอะไรในโลก ทุกวันนี้ และตระหนักว่า ประสิทธิภาพของการพยายามประกาศ ขึ้นอยู่กับการประสบชัยชนะสงครามฝ่ายวิญญาณในสวรรค์สถาน
พระคัมภีร์หลายตอน ชี้ให้เห็นว่าศาสตราวุธที่เราจะต่อสู้สงคราม คือ ยุทธาธิษฐาน (Warfare prayer)




 





 















Visitor 92

 อ่านบทความย้อนหลัง