“ให้เรามีสิทธิ์เป็นลูก” 

การุณย์  กิตติพงศ์  

 

ในยอห์น 1:12-13 “แต่​ส่วน​บรรดา​ผู้​ที่​ต้อนรับ​พระ​องค์ ผู้​ที่​เชื่อ​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ ​พระ​องค์​ก็​ทรง​ประทาน​สิทธิ​ให้​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​ 13 ซึ่ง​ใน​ฐานะ​นั้น​เป็น​ผู้​ที่​มิได้​เกิด​จาก​เลือด​เนื้อ หรือ​กาม หรือ​ความ​ประสงค์​ของ​มนุษย์ แต่​เกิด​จาก​พระ​เจ้า”

 

       แม่อ่านพระคำข้อนี้ ดีใจจัง  อ่านซ้ำอ่านซากหลายครั้ง พิจารณาตัวต่อตัว ที่เดียวแหละ เราต่ำต้อย เราเป็นคนบาป เราเป็นนักโทษ มีความผิดติดตัว  เราเป็นคนหมดหวัง ช่วยตัวเองไม่ได้  และไม่มีมนุษย์คนไหนช่วยเราได้  เรามืดแปดด้าน  มาได้ยินข่าวดี  ประเสริฐเช่นนี้  ดีใจที่สุด

 

      ยินดีต้อนนรับพระองค์เป็นพระเจ้า บ่ายหัวเข้ามาหาพระองค์ พระองค์รักเรา แสดงความรักต่อเรา อย่างอบอุ่นที่สุด เรียกเราว่า “ลูก” ดูแลเรา เป็นห่วงเรา 

 

     แม่ซาบซึ้งตั้งแต่บทแรก ทรงส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์  มาตายไถ่บาปให้เรา  เพื่อเราจะรอด พระองค์ทรงทราบว่าเราอยู่ในร่างกาย  ขณะอยู่ในโลกนี้จะต้องพบกับการเจ็บไข้  พระองค์ทรงทนรับความเจ็บป่วยบนพระกายพระองค์  ทรงเจ็บเพื่อเรา

 

      1 เปโตร 3:24  “พระองค์ได้รับแบกบาปของเราไว้ ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายจะได้ตายจากบาปได้ และดำเนินชีวิตตามคลองธรรม  ด้วยบาดแผลของพระองค์ ท่านทั้งหลายได้รับการรักษาให้หาย”

 

                                         

 

ด้วยการเป็นแม่  มีวิญญาณของ “ใจแม่” เต็มบริบูรณ์จึงเข้าใจน้ำพระทัย ของพระเจ้าที่พระองค์เรียกเราว่า “ลูก”  แม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง  พระองค์ รักเราแบบไหน อย่างไร เพียงใด เข้าใจ! เข้าใจ!

   

       “พระบิดาเจ้าข้า ลูกกราบที่พระบาทของพระองค์ และถวายชีวิตทั้งชีวิต รับใช้พระองค์ตลอดชีวิต  ลูกจะไม่เข้า ๆ ออกๆลูกอยากจะ กอปปี้  พระคุณของพระองค์ไว้ในชีวิตของลูก  ศึกษาน้ำพระทัยของพระองค์ไว้ในวิญญาณของลูก  เพื่อลูกจะทราบว่า   ควรจะประพฤติอย่างไร และไม่ควรจะประพฤติอย่างไร

  

        แม่อ่านพระคัมภีร์  หลายตอนเน้นเรื่องนี้ เช่น โรม 12:1 เอเฟซัส 4:17-5:1 ล้วนแต่สอนให้เรารู้ว่า เราควรประพฤติอย่างไรให้เป็นที่พอพระทัย

 

        แท้ที่จริง แม่ไม่ต้องการอะไรจากลูก  มากกว่าที่ลูกเป็นคนเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม  แม่ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อลูกจะมีกิน  มีใช้  แม่ไม่ต้องเล่าใหม่ ลูกก็รู้กันทุกคน แท้จริงประการแรกที่สำคัญ คือลูกเชื่อฟัง รักพระเจ้า  ถ่อมใจ  ฯลฯ  เป็นความประสงค์ที่แม่ต้องการ เพราะนั่นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า  ลูกทุกคน  แม้แต่แม่เอง ก็ต้องปฏิบัติ  ถ้าเราทำดี พระเจ้าได้อะไร  ก็เปล่า    พระองค์ได้รับความโสมนัสยินดีในเรา นั่นคือความสุขของพระองค์  เช่นเดียวกัน  แม่ (คนนี้) ไม่ต้องการอะไรจากลูกมากกว่าความน่ารักของลูก  จำเพาะพระพักตร์พระเจ้า แม่ชื่นใจแล้ว และมีสุขภาพร่างกายดีด้วย

 

         คนโบราณเขาพูดกันว่า 

        “คนเราไม่มีลูก ไม่มีวันเข้าใจความรักของแม่”  

        แต่ความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรานั้น สูงส่ง ลึกซึ้ง หลายเท่านัก  

        ทำไมแม่ว่าอย่างนั้น

        เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า สะอิดสะเอียนความบาป

 

                          

  เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า  ทรงทราบเหตุการณ์ในอนาคต ล่วงหน้า ว่าน่ากลัวพียงไร   พระองค์วิตกเพื่อเรา  เป็นทุกข์วิบัติที่จะมาถึงชีวิตของเรา (มนุษย์ )  ความรักปนกับความวิตก ใหญ่โตมากขนาดไหน  พระองค์ให้พระบุตร สุดที่รัก องค์เดียวของพระองค์มาตายแทนเรา  ไถ่บาปให้เรา ถ้าแม่ไม่รู้จักความรักลูก  อาจจะฟังเฉย  เพราะไม่เข้าใจความรักของแม่ที่มีต่อลูก  เหน็ดเหนื่อยเพื่อลูกได้  อดอยากเพื่อลูกได้  ลำบากเพื่อลูกได้ 

 

        ลูกรักของแม่จ๋า แม่ตายเพื่อลูกได้   พระคัมภีร์ใช้คำว่า “ชะรอยจะมีคนยอมตายเพื่อคนที่รักได้” แต่พระเจ้าทรงส่งพระเยซูคริสต์ พระบุตรองค์เดียวของพระองค์  มาตายเพื่อมนุษย์ที่แสนจะน่าเกลียดประพรุน เน่าไปด้วยความบาปที่น่าขยะแขยง  ไม่เป็นรูปเป็นร่างได้  

 

      ในโลกนี้เราจะหาพระ อย่างนี้ได้ที่ไหนพบ

 

        “ข้าแต่พระเจ้า ลูกสรรเสริญพระคุณ ความรักของพระองค์ และกราบโมทนาพระคุณของพระองค์  พระบิดาเจ้าข้า ลูกกราบทูล ขอ

 

                        

พระเมตตาจากพระองค์  โปรดให้ลูก และหลานทุกคนรอด และรักพระองค์ทุกคน โปรดอย่าเว้นใครสักคนเดียว ให้เขาถวายตัวบอกเล่าคนอื่นด้วย ทูลขอในพระนามพระเยซู  อาเมน”

 

        ลูกรักทุกคน เราผู้ที่รับพระคุณและรอดโดยพระคุณ อาศัยในพระคุณ อยู่ในโลกท่ามกลางวิกฤติได้อย่างอบอุ่น ก็โดยพระคุณ เราจะรับพระคุณ เป็นการเปล่าหรือ อย่าเลยลูก อยู่ใกล้พระเจ้า คอยรับพระบัญชา เพื่อรับใช้  

 

        เรียนจากพระองค์ ประพฤติตามสิ่งที่ชอบพระทัย  ตรวจค้นดูในจิตใจ ขอให้พระองค์ช่วยชำระเราทุกวัน พระองค์ทรงให้เราช่วยเหลือคนยากจน และลูกกำพร้า ทรงให้เรารักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง  ประกาศพระกิตติคุแก่ผู้อื่นต่อไป  

 

        ให้เรารับพระบัญชาด้วยเต็มใจ 



Visitor 73

 อ่านบทความย้อนหลัง