อิ่มใจ

 

 

 

ศบ.

 

 

     มัทธิว 5:6

     “บุคคลผู้ใดหิวกระหายความชอบธรรม  ผู้นั้นเป็นสุข  เพราะว่าพระเจ้าทรงให้อิ่มบริบูรณ์” 

   

 

  

    ท้องหิว ก็ไม่เท่าใจหิว 

 

      วันหนึ่งพระเยซูเสด็จผ่านสะมาเรีย มาถึงเมืองสิคาร์ ที่นั่นมีบ่อน้ำยาโคบ พวกสาวกเข้าไปในเมืองเพื่อไปซื้ออาหาเที่ยง พระองค์

รอคอยพวกเขาอยู่ที่นั่น  จณะนั้นมี หญิงสะมาเรียคนหนึ่งมาตักน้ำที่บ่อน้ำคนเดียว พระองค์ทรงปรารถนานำเธอมาพบสันติสุขใน

พระเจ้า พระเยซูเป็นแบบในการใช้ทุกโอกาสนำคนมาพบสันติสุข จึงขอน้ำดื่มจากเธอ  หญิงนั้นฉงนมาก ที่พระองค์ตรัสกับเธอ

เพราะพระเยซูเป็นยิว  เธอเป็นสะมาเรีย ปกติยิวไม่คบสะมาเรียเลย เธอถามว่า“ไฉนท่านที่เป็นยิวจึงมาขอน้ำจาก ดิฉันซึ่งเป็นชาวสะ

มาเรีย” พระองค์ตรัสตอบนางว่า  “ถ้าท่านรู้จักของที่พระเจ้าประทาน และผู้ที่พูดกับเธอ  เธอคงจะขอ   น้ำจากท่านผู้นั้นและท่านผู้

นั้นคงประทานน้ำธำรงชีวิตแก่เจ้า” น่าสังเกตว่าพระเยซู นำเธอจากน้ำในบ่อนี้ไปพูดเรื่องน้ำธำรงชีวิต แต่เธอยัง เข้าใจว่าพระองค์

พูดเรื่องน้ำในบ่อนี้  นางทูลว่า “ท่านเจ้าค่ะ ท่านไม่มีถังตัก  และบ่อนี้ก็ลึก ท่านจะได้น้ำ ธำรงชีวิตมาจากไหน” “ท่านเป็นใหญ่กว่า

ยาโคบ บรรพบุรุษของเราหรือ”

 

 

 

พระองค์ตรัสให้เธอฟังชัดขึ้น

  “ทุกคนที่ดื่มน้ำนี้กระหายอีก  แต่ผู้ที่ดื่มน้ำที่เราจะให้แก่เขา จะไม่กระหายอีกเลย  น้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้น จะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุ

ในตัวเขา พลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” เธอเริ่มเข้าใจว่า ที่พระองค์ตรัส  ไม่ใช้การดื่มน้ำในบ่อนี้ให้หายกระหาย  แต่เป็นการดื่มน้ำฝ่าย

วิญญาณ ที่ทำให้อิ่มใจ  เธอจึงออกปาก ทูลขอน้ำเช่นนั้นจากพระองค์ “ท่านเจ้าค่ะ  ขอน้ำนั้นให้ดิฉันเถิด เพื่อดิฉันจะได้ไม่กระหาย

อีก และจะได้ไม่ต้องมาตักที่นี่”

 

 

 

  พระเจ้าสร้างคนเรามาให้มี ร่างกายภายนอก  และจิตใจภายในทั้งภายนอกภายใน พระองค์ทรงปรารถนาให้เรามีความสุข  ให้เรา

“สุขกาย สบายใจ” เพื่อเราจะมีความสุข  เราจะเสาะหา แสวงหาสิ่งมาป้อน ที่เราขาด เพื่อเราจะได้อิ่ม  ความอยาก ความปรารถนา

ความกระหาย ผลักดันเรา

       

     ป้อนกายหิว ไม่เคยพอ 

เรารู้ดีว่าคนเราขาดน้ำไม่ได้  หญิงสะมาเรียคนนี้ มาตักน้ำที่บ่อน้ำนี้ไปดื่มกินทุกวัน ดื่มน้ำก็ดับกระหายเธอได้  แต่ดับการะหายเพียง

กายเท่านั้น วันนี้เราอดหยาก ปากแห้ง ความหิวผลักดันให้เราลุกขึ้นไปทำงาน หาเงิน หาอาหารมาป้อนร่างกายที่หิวโหยอาหารหมด

ก็ต้องไปหามาอีก กษัตริย์ซาโลมอน เป็นกษัตริย์ทีมั่งคั่งที่สุด  พระองค์ท่านหาทุกอย่างที่กายต้องการมป้อน  “ข้าพเจ้าคิดดูว่า จะ

ทำอย่างไรกายจึงจะคึกคักด้วยเหล้าองุ่น” ไม่เท่านั้น  ซาโลมอนทรงดำริว่า ทรัพย์จะช่วยให้อิ่ม “ข้าพเจ้าสร้างเรือนหลายหลัง สวน

องุ่นหลายแปลง ทั้งสวนผลไม้ และสวนหย่อนใจ  สร้างสระน้ำ ซื้อทาสชายหญิงมาดูแล มีฝูงโคฝูงแพะแกะ สะสมเงินทองมากว่าใคร

ทั้งหมด” ไม่ใช่แต่สบายปาก สบายกาย ซาโลมอนต้องการให้สบายหู   

 

 

 “ข้าพเจ้ามีนักร้องชายหญิงสำหรับตัว” ถ้าเป็นทุกวันนี้ ก็ฟังเพลง ดูยูทูป เล่น ติกตอก เสียงชัดแจ๋ว  คมกริบ สเตอรีโอ เซน เซอ

ราว ออกรอบทิศทาง  เท่านั้น ไม่พอให้สบายตาด้วย  “สิ่งใด ๆ ที่นัยน์ตาอยากเห็น ข้าพเจ้าก็ไม่ปิดบัง”  ข้าพเจ้าไม่ห้ามใจจาก

ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ใด ๆ หนังที่จะดูกันได้วันนี้คมชัด สีสัน เกินความจริงเหลือคณา ความละเอียดไม่รู้กี่ล้านพิกเซล แข่ง

กันผลิตให้คนยุคนี้บริโภค พกพาไปดูที่ไหนก็ได้ 

       

ครับ สัมผัสของร่างกายทั้ง 5 นั้นเราอาจคว้ามาทั้งหมด อร่อยปาก ระรื่นหู ชื่นกลิ่น ตื่นตา สุขกาย หญิงสะมาเรียคนนี้ คงเสาะ

หาความสุขทางเพศด้วย เพราะเธอมีผัวมา 5 คน  และคนที่เธออยู่ด้วยวันนั้น  ก็ไม่ได้เป็นสามีของเธอ  ซาโลมอน ก็เช่นเดียวกัน

 “ข้าพเจ้ามีเมียน้อย ซึ่งเป็นสิ่งชอบใจผู้ชาย” พระองค์มีมากเสียด้วย 

 

 

 

         คนเรากระหายความรู้

 ซาโลมอน ยังเสาะหาความรู้ เป็นอาหารสมองอันโอชะ อยากรู้  อยากเห็น “ข้าพเจ้ามีสติปัญญามากยิ่งกว่าใคร  ข้าพเจ้าตั้งใจรู้สติ

ปัญญา ความรู้บ้าบอ และความเขลา” แล้ววันหนึ่งพระองค์ก็สรุปว่า “เรื่องนี้ก็เป็นแต่กินลมกินแล้ง” 

 

         หญิงสะมาเรียคนนี้ ไม่ได้โง่น่ะครับ เธอคงรู้จักประวัติความเป็นมาของยิว  ที่มาของชาวสะมาเรีย  รู้เรื่องพิธีการนมัสการ รู้

เรื่องผู้เผยพระวจนะ  รู้เรื่องกรุงเยรูซาเล็ม เรื่องภูเขาเกราซิม และอีบัล ภูเขาแห่งพระพร และคำแช่งสาป อันเป็นที่ที่ชาวสะมาเรีย

มารวมตัวกันนมัสการ เธอรู้เรื่องพระเมสสิยาห์ (พระคริสต์ที่จะเสด็จมาไถ่โทษบาป) เธอคงเป็นคนที่เสาะหาในความล้มเหลว ยิ่ง

ทำให้เธอกระหายพระเจ้า

         

ผมเดาน่ะครับ  เธอคงตระหนักดีว่า อะไร ๆ ที่เธอหามาป้อนชีวิตของตัวเธอเองทั้งหมด  ไม่ได้ทำให้เธออิ่มหนำสำราญอะไรขึ้นมา

เลย  เธอโหยหา คว้ามาได้ แล้วเธอก็คว้าน้ำเหลว ชายคนแรกนึกว่าจะดี แท้จริงก็เลว ที่สอง ที่สาม ที่สี่ มันก็คือ เสือ สิง กระทิง และ

แรด ดีดีนี่เอง รวมทั้งคนที่ห้า ตรงข้าม การไขว่คว้าของเธอ ยิ่งทำให้เธอถลำ ผิดศีลธรรม และใจเธอยิ่งเหือดแห้งลงไปทุกที แย่ลง

กว่าเดิม ตกลงในหลุมลึกยิ่งกว่าเก่า สังคมก็ผละออกไปจากเธอ ไม่แปลกที่ทำไมเธอมาตักน้ำ  ตอนเที่ยงคนเดียว เธอไม่มีเพื่อน

เพราะปกติสาว ๆ ทั้งหลายเขาพากันมาตักน้ำตอนเย็น คุยกันสนุกโปกฮา เสียงเจี้ยวจ้าว  แต่เธอไม่เหลืออะไร 

 

 

 

พระเยซูทรงเล่าเรื่องบุตรน้อยจากบ้านพ่อว่า  “เวลาทรัพย์หมดแล้ว  เขาก็ขัดสน” ความขัดสน นี้ดีน่ะครับ  การสิ้นหวังของบุตรน้อย

ดีน่ะครับ การขัดสน ทำให้หิว วันนี้เธอหิวมากกว่าอาหาร หรือเซ็กส์  เธอปรารถนาแก่นแท้แห่งชีวิต  เพราะเธอคงสรุปได้ว่า  สุขแท้

มิได้อยู่ที่กาย อารมณ์ หรือ

 

 

ชีวิตใหม่ทำให้เธออิ่มใจ

      แล้วชีวิตใหม่ อิ่มเอิบจะเกิดกับเรา อย่างที่พระองค์ตรัสกับเธอว่า “ทุกคนที่ดื่มน้ำนี้กระหายอีก  แต่ผู้ที่ดื่มน้ำที่เราจะให้แก่เขา

จะไม่กระหายอีกเลย  น้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้น จะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุ ในตัวเขา พลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” เธอไม่กลัวสังคม  เธอไม่

คำนึงถึงความล้มเหลวในอดีต พระเยซูรับรองเธอ เธอเลิกคิดถึงตนเอง  เธอช่วยคนอื่น  เธอตื่นเต้นกับชีวิตใหม่  ออกไปบอกทุกคน

ที่เธอพบ

 

 

        

         จิตใจฉันโหยหาย         ดั่งบ่อทราย  ฝายแห้งผาก

      จนแค้นแสนทุกข์ยาก        วิบากกรรม    ลำเค็ญจิต

           ถอยท้อขอใครช่วย      ก่อนจะม้วย   ด้วยมืดมิด  

      วันหนึ่งพบพระคริสต์          เผยชีวิต      อดีตตน

           พระพักตร์อันสดใส       ช่วยฉันให้    ไม่สับสน

      จากหญิงที่หมองหม่น        สุขท่วมท้น   ล้นพระพร        

           ชีวิตจึ่งชุ่มชื่น              ฉ่ำระรื่น       มิเหมือนก่อน

      อิ่มเอมเปรมรักซ้อน           แผ่พระพร     ป้อนผู้คน


Visitor 98

 อ่านบทความย้อนหลัง