เมล็ดพืชตกที่ดินดี

คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม 2007
ศ.จ. สมเกียรติ กิตติพงศ์


(มัทธิว 13:18-23)
เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงฟังคำอุปมาว่าด้วยผู้หว่านพืชนั้นเมื่อผู้ใดได้ยินพระวจนะแห่งอาณาจักรนั้นแต่ไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาฉวยเอาพืชซึ่งหว่านในใจเขานั้นไปเสีย นั่นแหละได้แก่ผู้ซึ่งรับเมล็ดริมหนทางและผู้ที่รับเมล็ดซึ่งตกในที่ดินซึ่งมีพื้นหินนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะ แล้วก็รับทันทีด้วยความปรีดีแต่ไม่มีรากในตัวเองจึงทนอยู่ชั่วคราว และเมื่อเกิดการยากลำบากหรือการข่มเหงต่างๆเพราะพระวจนะนั้น ต่อมาเขาก็เลิกเสียผู้ที่รับเมล็ดซึ่งตกกลางหนามนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ฟังพระวจนะ แล้วความกังวลตามธรรมดาโลก และการล่อลวงแห่งทรัพย์สมบัติก็รัดพระวจนะนั้นเสีย และเขาจึงไม่เกิดผลส่วนผู้ที่รับเมล็ดซึ่งตกในดินดีนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะและเข้าใจ คนนั้นก็เกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง"

พระเยซูตรัสคำอุปมานี้ พูดถึงการเพิ่มพูนคริสตจักรอันเกิดมาจากการฟังพระวจนะ ตกที่ดินดีเมื่อเกิดความเข้าใจ แล้วนำไปปฏิบัติ ก็เกิดผลในชีวิต เกิดผลมากขนาดไหน พระเยซูตรัสว่าเกิดมาก 30 เท่า 60 เท่า 100 เท่าตัวเชียว
ที่ตกกลางหนาม ได้แก่ พระวจนะที่เรารับไปแล้ว แต่เรายอมให้ความปรารภปรารมภ์ของโลกมาแย่งชิงมันเสีย ที่ตกที่หินมากดินน้อย ได้แก่ พระวจนะที่เราฟังไปตื่นเต้นตามอารมณ์ความรู้สึก ไม่ลึก สุดท้ายที่ตกริมหนทาง ได้แก่พระวจนะที่หว่านไปโดยคนฟังไม่ได้ยิน ได้ยินไม่ชัด หรือได้ยินแล้วไม่เข้าใจ พวกนี้ได้แก่เรื่องที่ผมจะพูดถึง เช่น เสียงคำเทศนาในห้องได้ยินไม่ชัด

ขอพูดเรื่องเพิ่มพูนคริสตจักรสักหน่อย C. Peter Wagner ได้พูดถึงการเพิ่มพูนคริสตจักรไว้ว่า มีประกอบหลายอย่าง คริสตจักรที่จะเพิ่มพูนต้องเอาสิ่งต่างๆเหล่านี้มาพิจารณา

องค์ประกอบของการเพิ่มพูนคริสตจักร
1.ศิษยาภิบาล (1) ตั้งใจอยู่คริสตจักรนาน (2) ขยัน (3) เห็นคริสตจักรโต มีนิมิต
2.สมาชิก (1) ตอบสนองลุกขึ้นรับใช้ (2) ใช้ของประทาน (3) ร่วมนิมิต
3.โครงสร้าง คริสตจักรของเรา ใช้ การนมัสการ+การประชุมกลุ่มสามัคคีธรรม+กลุ่มเซลล์)
ต้องมีการปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์เสมอ
4.โตพอที่จะทำ 3 สิ่ง (1) การประกาศ (2) การอภิบาลศิษย์ (3) ทำปรัชญาของตน
5.วิธี การประกาศที่ได้ผล
6.กลุ่มคนประเภทเดียวกัน
7.เลือกสิ่งสำคัญก่อน เช่น เลือกการประกาศ ก่อนการสงเคราะห์
ทั้งหมดนี้ต้องมาแต่การทุ่มเทและอธิษฐานพึ่งพระเจ้า เราปลูก รดน้ำ พรวนดิน แต่พระเจ้าทรงเป็นผู้ทำให้เติบโต

ปัจจุบันเราได้ปรับรูปงานคริสตจักรหลายประการ เช่น
1.กรรมการคริสตจักร ปีนี้ ผมได้ใช้วิธีแต่งตั้ง แทนการเลือกตั้ง โดยเน้นคนที่มา ร่วมงานเป็นคนที่มีของประทานด้านนั้นๆ
2.ทีมงาน ประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ภรรยากับผมได้เข้ามาดูการทำงานของคนงานเข้มขึ้น ณ วันนี้ ผมเชื่อว่าดีขึ้น
3.กลุ่มเซลล์ กับสาวก12 เราทำกลุ่มเซลล์มาหลายปี ปีนี้ เราได้เริ่มทำ การสร้างสาวก 12 ผมคิดว่าเริ่มมาได้ประมาณ 30 % ผมเชื่อ เรามาถูกทาง
4.การอธิษฐาน เราไม่เคยจัด ฝ่ายอธิษฐานไว้ในโครงสร้างหลักของคริสตจักร ปีนี้ เรามี คุณ ดวงพร บุณยนิยม เป็นผู้นำฝ่ายอธิษฐานในกรรมการของคริสตจักร
5.การประกาศ + เยี่ยมเยียน เราได้เริ่มจัดการเยี่ยมเยียนในวันเสาร์มา 3 เดือนแล้ว และทีมประกาศกำลังปรับรูปแบบการประกาศด้วย
6.คริสเตียนศึกษา อ.จ. สรรเสริญกำลังปรับปรุงและ เพิ่มชั้นเรียนคริสเตียนศึกษาให้มาก ขึ้น
7.การนมัสการ+ฟังเทศน์ อันนี้ผมขอปรับปรุงห้องประชุมใหม่ ให้สอดคล้องกับปรัชญา ของคริสตจักร
8.สามัคคีธรรม หลังการปรับปรุงห้องนมัสการ ก็จะขอจัดชั้นสองเป็นที่รับประทานอาหาร มื้อเที่ยงวันอาทิตย์

ข้อดีของการจัดห้องประชุม
1.การสื่อระหว่างผู้นำกับผู้ฟังดีขึ้น
2.ปรัชญาของคริสตจักร สมาชิก “เป็นผู้ร่วม” ไม่ใช่ “ผู้ชม”
3.แก้เสียงก้อง
4.การจัดนั่งเป็นหน่วยง่ายขึ้น
5.การเข้าห้องน้ำสะดวกขึ้น


ครับ ทำสิ่งที่เราทำได้ พระเจ้าจะทรงกระทำสิ่งเกินกำลังของเรา
Click เพื่อฟังคำเทศนาที่นี่
Visitor 182

 อ่านบทความย้อนหลัง